เมนู
บทความ
บทความวิชาการ
>> อาเซียน
>> พรบ.การศึกษา
>> การจัดการเรียนรู้
>> คุณลักษณะนิสัย
>> วัดผลประเมินผล
>> ระบบดูแลนักเรียน
>> วิจัยในชั้นเรียน
>> หลักสูตร 2551
บทความวิทยาศาสตร์
>> รวมคำขวัญวันวิทยาศาตร์
>> เกิดอะไรขึ้นในสมอง
>> science-news
>> สีสันวิทยาศาสตร์
>> วิทยาศาสตร์น่ารู้
>> วิทย์ระดับประถม
>> คลังความรู้วิทยาศาสตร์
>> 10 กลวิทยาศาสตร์สนุก
>> เด็กวิทย์สนุกคิด
>> เทคโนโลยีและชีวภาพ
>> วิทยาศาสตร์มหัศจรรย์
>> นิทานวิทยาศาสตร์
>> เกร็ดวิทย์ชวนรู้
>> บทความวิทยาศาสตร์
>> ข่าววิทยาศาสตร์
>> การทดลองวิทยาศาสตร์
บทความน่าสนใจ
>> เอลนีโญและลานีญา
>> พืชสมุนไพร
>> เตรียมตัวสู้น้ำท่วม
>> สื่ออีเลิร์นนิ่ง
>> สื่อ Teblet
>> สึนามิ
>> ข้อคิด คติเตือนใจ
>> ดาวศุกร์ผ่านหน้าดวงอาทิตย์
>> พืชดูดสารพิษ
บทความสุขภาพ
>> ผักบุ้งนา ประหยัดสุด
>> อาบน้ำลดน้ำหนัก
>> ช่วยตับขับพิษ
>> การแกว่งแขนบำบัด
>> ครีมเทียม ยิ่งมากยิ่งเสี่ยง
>> ของเสียในร่างกาย
>>12 วิธีการลดคลอเลสเตอรอล
>> 15 วิธีลดไขมัน
>> สมุนไพรลดไขมัน
>> บ้านสุขภาพ
>> อาหารกลางวัน
>> คำนวณภาวะโภชนาการ
>> โภชนาการน่ารู้
>> ธงโภชนาการ
>> 10 อย่างที่ควรรับประทาน
>> อาหารสุขภาพ
>> อาหารและสุขภาพ
>> สาระน่ารู้ต่างๆ นาๆ
ปฎิทิน
April 2025
Sun Mon Tue Wed Thu Fri Sat
  
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
   
สถิติ
เปิดเมื่อ17/04/2012
อัพเดท31/12/2015
ผู้เข้าชม404010
แสดงหน้า524379


ทำแบบนี้...แค่ 7 นาทีก็พอ

อ่าน 237 | ตอบ 0
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ แนะนำให้ผู้ใหญ่ออกกำลังแบบกลางๆ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 150 นาที หรือจะเป็นการออกกำลังกายหนักๆ  75 นาที แต่ต้องออกกำลังเพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้แก่กล้ามเนื้ออย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 วันด้วย แต่ขั้นตอนออกกำลังต่อไปนี้ใช้เวลาแค่ 7 นาที และทำให้เราได้ออกกำลังทั้ง 2 แบบไปพร้อมกัน
       
       สถาบันสมรรถภาพมนุษย์ (Human Performance Institute) ในออร์แลนโด ฟลอริดา สหรัฐฯ ให้คำแนะนำในการออกกำลัง 12 ท่าต่อเนื่องที่ใช้เวลาออกกำลังรวมเพียง 7 นาที แต่ทำให้เราได้ออกกำลังทั้งแบบลงน้ำหนัก (weight bearing ) ที่สร้างความแข็งแรงแก่กล้ามเนื้อ และแบบแอโรบิก (aerobic) ที่กระตุ้นอัตราเต้นของหัวใจและการใช้ออกซิเจนไปพร้อมกัน
        
       
       แต่ละท่าทำเพียง 30 วินาทีแล้วเว้นช่วง 10 วินาทีก่อนไปต่อท่าใหม่ และเมื่อทำครบทุกท่าแล้ว สามารถวนซ้ำได้อีก 2-3 รอบตามต้องการ
       
       ลำดับการออกกำลัง 12 ท่า มีดังนี้
       1. กระโดดตบ (Jumping jacks)
       2.ย่อตัวนั่งพิงกำแพง (Wall sits)
       3.ยันพื้น (Push-ups)
       4.บริหารกล้ามเนื้อหน้าท้อง (Abdominal crunches)
       5.ขึ้น-ลงบนเก้าอี้ (Step-ups onto a chair)
       6.ทำท่าสคอท (Squats) ยืน-นั่งกลางอากาศ
       7.บริหารต้นแขนบนเก้าอี้ (Triceps dips on a chair)
       8.ทำท่าแพลงก์ (Planks)
       9.วิ่งอยู่กับที่ (High knees/running in place)
       10.ก้าวย่อเข่า (Lunges)
       11.ยันพื้นแล้วหมุน (Push-ups and rotations)
       12.ทำท่าแพลงก์ด้านข้างลำตัว (Side planks)
ที่มา :http://manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9560000058801
ความคิดเห็นของผู้เข้าชม
ชื่อผู้แสดงความคิดเห็น :
สถานะ : รหัสผ่าน :
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง :
รหัสความปลอดภัย :
 


Web Master : ครูนงลักษณ์

นงลักษณ์ ชูทัน
  น.ส.นงลักษณ์ ชูทัน

สารพัดลิงค์







เรื่องน่ารู้



ผู้ที่เป็นครูจะต้องถือเป็นหน้าที่อันดับแรก ที่จะต้อง ให้การศึกษา คือ สั่งสอนอบรมอนุชนให้ได้ผลแท้จริง ทั้งในด้านวิชาความรู้ ทั้งในด้านจิตใจ และความประพฤติ ทั้งต้องคิดว่างานที่แต่ละคนกำลังทำอยู่นี้คือความเป็นความตายของประเทศ เพราะอนุชนที่มีความรู้ความดีเท่านั้นที่จะรักษาชาติบ้านเมืองไว้ได้…
(พระราชดำรัส : ๒๕๑๕)