เมนู
บทความ
บทความวิชาการ
>> อาเซียน
>> พรบ.การศึกษา
>> การจัดการเรียนรู้
>> คุณลักษณะนิสัย
>> วัดผลประเมินผล
>> ระบบดูแลนักเรียน
>> วิจัยในชั้นเรียน
>> หลักสูตร 2551
บทความวิทยาศาสตร์
>> รวมคำขวัญวันวิทยาศาตร์
>> เกิดอะไรขึ้นในสมอง
>> science-news
>> สีสันวิทยาศาสตร์
>> วิทยาศาสตร์น่ารู้
>> วิทย์ระดับประถม
>> คลังความรู้วิทยาศาสตร์
>> 10 กลวิทยาศาสตร์สนุก
>> เด็กวิทย์สนุกคิด
>> เทคโนโลยีและชีวภาพ
>> วิทยาศาสตร์มหัศจรรย์
>> นิทานวิทยาศาสตร์
>> เกร็ดวิทย์ชวนรู้
>> บทความวิทยาศาสตร์
>> ข่าววิทยาศาสตร์
>> การทดลองวิทยาศาสตร์
บทความน่าสนใจ
>> เอลนีโญและลานีญา
>> พืชสมุนไพร
>> เตรียมตัวสู้น้ำท่วม
>> สื่ออีเลิร์นนิ่ง
>> สื่อ Teblet
>> สึนามิ
>> ข้อคิด คติเตือนใจ
>> ดาวศุกร์ผ่านหน้าดวงอาทิตย์
>> พืชดูดสารพิษ
บทความสุขภาพ
>> ผักบุ้งนา ประหยัดสุด
>> อาบน้ำลดน้ำหนัก
>> ช่วยตับขับพิษ
>> การแกว่งแขนบำบัด
>> ครีมเทียม ยิ่งมากยิ่งเสี่ยง
>> ของเสียในร่างกาย
>>12 วิธีการลดคลอเลสเตอรอล
>> 15 วิธีลดไขมัน
>> สมุนไพรลดไขมัน
>> บ้านสุขภาพ
>> อาหารกลางวัน
>> คำนวณภาวะโภชนาการ
>> โภชนาการน่ารู้
>> ธงโภชนาการ
>> 10 อย่างที่ควรรับประทาน
>> อาหารสุขภาพ
>> อาหารและสุขภาพ
>> สาระน่ารู้ต่างๆ นาๆ
ปฎิทิน
April 2025
Sun Mon Tue Wed Thu Fri Sat
  
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
   
สถิติ
เปิดเมื่อ17/04/2012
อัพเดท31/12/2015
ผู้เข้าชม403958
แสดงหน้า524325


เตือน “ไข่มุกในชา” พาเสี่ยงมะเร็ง

อ่าน 247 | ตอบ 0
เตือน “ไข่มุกในชา” พาเสี่ยงมะเร็ง 

เวลากระหายคงอยากได้เครื่องดื่มเย็นๆ ดับร้อนสักแก้ว โดยเฉพาะเหล่าชานมไข่มุกที่ยั่วยวนให้เข้าไปซื้อดื่มกิน เพราะนอกจากดื่มให้ชุ่มคอแล้ว ยังมีเม็ดไข่มุกให้บริหารฟันกันหนุบหนับอีกด้วย ซึ่งก็ไม่ใช่มีแต่เฉพาะชาเย็น เพราะมีเครื่องดื่มอีกหลากหลายให้เลือกไม่ว่าจะเป็น ชาเขียว โกโก้ นมเย็น หนุ่มๆ สาวๆ สมัยนี้เลยติดดื่มชาไข่มุกกันงอมแงม เพราะนอกจากความอร่อยแล้ว ยังมีให้เลือกซื้อกันแทบทุกที่ ตั้งแต่ห้างสรรพสินค้าไปจนถึงรถเข็นกันเลยทีเดียว ออกตัวมาขนาดนี้ เพราะอยากจะเตือนว่าการดื่มเครื่องดื่มประเภทนี้ ไม่ได้ส่งผลดีต่อร่างกายของเราสักเท่าไหร่นัก ข้อมูลนี้ถูกเปิดเผยในงานประชุมวิชาการโภชนาการแห่งชาติ ครั้งที่ 6 โดย ผศ.ดร.เรวดี จงสุวัฒน์ หัวหน้าภาควิชาโภชนาวิทยา คณะสาธารณสุขศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล และเลขาธิการสมาคมโภชนาการแห่งประเทศไทย ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้เครื่องดื่มประเภทชาไข่มุกกำลังได้รับความนิยมในยุโรปรวมทั้งเยอรมนี องค์การด้านสุขภาพและนักวิจัยเยอรมนีจึงได้ออกคำเตือนการบริโภคเครื่องดื่มประเภทชาไข่มุก เพราะอาจมีกรณีสำลักเม็ดไข่มุก และตรวจพบสารก่อมะเร็งปนเปื้อน ก่อนหน้านั้น ผลงานวิจัยจากประเทศเยอรมนี เปิดเผยว่า หลังการสุ่มตรวจเม็ดไข่มุกในเครื่องดื่มประเภทชาไข่มุก พบว่ามีสารก่อมะเร็งเจือปนในเม็ดไข่มุก โดยองค์การด้านสุขภาพและนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโรงพยาบาลอาร์คอน (University Hospital Aachen) ของเยอรมนี ได้ออกโรงเตือนถึงการบริโภคเครื่องดื่มประเภทชาไข่มุก ซึ่งกำลังเริ่มได้รับความนิยมในประเทศแถบยุโรปรวมทั้งเยอรมนีว่า นอกจากเครื่องดื่มเหล่านี้จะเสี่ยงก่อให้เกิดอันตรายจากการสำลักเม็ดไข่มุกแล้ว ยังตรวจพบว่าเม็ดไข่มุกเคี้ยวหนึบดังกล่าวยังมีสารเคมีประเภทโพลีคลอริเนต ไบฟีนิล หรือ PCBs (Polychlorinated Biphenyls หรือ PCBs) ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งเจือปนอยู่ด้วย ทั้งนี้ ข้อมูลจาก ศูนย์ข้อมูลพิษวิทยาระบุว่า สารเคมีประเภทโพลีคลอริเนต ไบฟีนิล เป็นสารที่ละลายน้ำได้น้อยแต่ละลายในไขมันได้ดี และสลายตัวได้ยากในสิ่งมีชีวิต เมื่อเข้าสู่ร่างกายมนุษย์แล้วจะถูกขับออกได้บ้างทางอุจจาระ และปัสสาวะ ที่เหลือจะสะสมในร่างกายทีละน้อย จนเริ่มแสดงอาการของพิษ เริ่มตั้งแต่คลื่นไส้ เหนื่อย เบื่ออาหาร เกิดตุ่มฝีที่ผิวหนัง เล็บคล้ำ ฯลฯ ไปจนถึงอาการขั้นร้ายแรง คือทำให้เกิดความผิดปกติของระบบสืบพันธุ์ ระบบภูมิคุ้มกัน และอาจทำให้เป็นมะเร็ง นอกจากนั้น ผศ.ดร.เรวดี ยังเป็นห่วงว่า สีสวยๆ ของเครื่องดื่มนั้น ไม่ว่าจะเป็น ชาเย็น นมเย็น ชาเขียวฯ ก็อาจมีความเสี่ยงในเรื่องของการเจือปนสีผสมอาหาร ซึ่งถ้ามีสีผสมอาหารมาก ดื่มมากก็ไม่ปลอดภัยเพราะเป็นสีสังเคราะห์ แต่ขณะนี้ยังไม่พบและส่วนมากเครื่องดื่มจากชามักจะผสมสมุนไพรที่เป็นสีจากธรรมชาติมากกว่า ส่วนด้านอื่นๆ นอกเหนือจากเรื่องการเจือปนของสารเคมีในเครื่องดื่มประเภทพวกชานมไข่มุกแล้วนั่นคือเรื่องของความหวาน ที่อาจส่งผลให้ผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง เสี่ยงมีภาวะน้ำหนักเกินและเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน โดย ผศ.ดร.เรวดี จงสุวัฒน์ แนะว่าให้ลดปริมาณการบริโภคให้น้อยลง ควรดื่มนานๆ ครั้ง ไม่ต้องซื้อกินทุกวัน วันละหลายๆ แก้ว เพราะชาไข่มุกมีรสหวานมาก รวมถึงการดูดผ่านหลอดขนาดใหญ่ หรือหลอดจัมโบ้ อาจทำอันตรายได้เช่นกัน เมื่อดูดเข้าไปแล้วกลืนลงทันที อาจจะเกิดปัญหาไข่มุกติดค้างในระบบทางเดินหายใจได้ ส่วนต้นกำเนิดของชานมไข่มุกนั้นมาจากประเทศไต้หวัน ชื่อภาษาจีนว่า “จูเจินหน่ายฉา” แปลตามตัวว่าชานมไข่มุกนั่นเอง แต่เดิมพ่อค้าแม่ขายในตลาดสดในไต้หวันได้นำแป้งมันสำปะหลังมาทำให้ชื้น แล้วนำตะแกรงมาล่อน จนกลายเป็นเม็ดสาคูสีดำขึ้นมา แล้วก็ลองนำมาต้มสุกเพื่อใส่ไว้ในชานม พอถึงฤดูร้อนก็ทำชานมเย็น แล้วก็ใส่เม็ดสาคูนี้ลงไป จึงทำให้เกิดที่มาของเครื่องดื่มยอดฮิต ชานมไข่มุกในปัจจุบัน ในไต้หวันจะมีผู้ทำเม็ดสาคูนี้เป็นแทบทุกบ้าน ต่อมาลูกหลานของพ่อค้าแม่ขายในตลาดจึงนำสาคูนี้มาทำเป็นอุตสาหกรรมส่งออกขนาดเป็นธุรกิจพันล้านไปแล้ว ส่วนคนไทยเริ่มรู้จักชานมไข่มุกหรือชาไข่มุก อย่างแพร่หลายเมื่อประมาณ 10 กว่าปีที่แล้ว ต่อมาชานมไข่มุกเริ่มนำมาใส่ในเครื่องดื่มชนิดอื่น แทนชา เช่น นม โกโก้ กาแฟ หรือใส่เยลลี่เพิ่มเติมลงไปในเครื่องดื่มต่างๆ โดย ASTVผู้จัดการรายวัน 26 มิถุนายน 2556

ความคิดเห็นของผู้เข้าชม
ชื่อผู้แสดงความคิดเห็น :
สถานะ : รหัสผ่าน :
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง :
รหัสความปลอดภัย :
 


Web Master : ครูนงลักษณ์

นงลักษณ์ ชูทัน
  น.ส.นงลักษณ์ ชูทัน

สารพัดลิงค์







เรื่องน่ารู้



ผู้ที่เป็นครูจะต้องถือเป็นหน้าที่อันดับแรก ที่จะต้อง ให้การศึกษา คือ สั่งสอนอบรมอนุชนให้ได้ผลแท้จริง ทั้งในด้านวิชาความรู้ ทั้งในด้านจิตใจ และความประพฤติ ทั้งต้องคิดว่างานที่แต่ละคนกำลังทำอยู่นี้คือความเป็นความตายของประเทศ เพราะอนุชนที่มีความรู้ความดีเท่านั้นที่จะรักษาชาติบ้านเมืองไว้ได้…
(พระราชดำรัส : ๒๕๑๕)